ประโยชน์
1. เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ขายสินค้ามีวันหมดอายุ เช่น อาหาร ยา และสินค้าอุปโภคบริโภคที่หมุนเวียนเร็ว เป็นต้น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถจัดส่งสินค้าก่อนวันหมดอายุ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
2. หากสินค้ามีปัญหาด้านคุณภาพ ผู้ใช้งานสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ในการตรวจสอบล็อตสินค้า เพื่อแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต
ข้อควรระวัง
1. หลังจากเปิดใช้งาน "การจัดการล็อตสินค้า" แล้ว เมื่อมีคำสั่งซื้อถูกซิงก์เข้ามา ระบบจะล็อกและตัดสต็อกของสินค้าที่เข้าคลังก่อน
2. ยังไม่สามารถแสดงข้อมูลล็อตสินค้าใน Pick List ได้ ผู้ใช้งานต้องระมัดระวังในการหยิบสินค้าที่เข้าคลังก่อนด้วยตนเอง
3. ยังไม่รองรับ Bundle SKU
ขั้นตอนการดำเนินการ
1.เปิดใช้งานการจัดการล็อตสินค้า
ไปยังหน้า การตั้งค่า > การตั้งค่าสินค้าคงคลัง > การจัดการในคลังสินค้า > การจัดการล็อตสินค้า

◾ ได้เปิดใช้งานฟีเจอร์สินค้าคงคลังแล้ว
◾ ใช้แพ็คเกจ VIP
ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่า "บังคับการกรอกวันหมดอายุ" และเลือกประเภทรายการที่จะได้รับผลกระทบได้

◾ ใบสั่งซื้อ: มีผลกับการเพิ่มและการแก้ไขใบสั่งซื้อทั่วไป/ใบสั่งซื้อ 1688 และการนำเข้าใบสั่งซื้อแบบเป็นชุดผ่านไฟล์ Excel
◾ รับสินค้า Stock-In: รวมถึงการสแกนและรับสินค้า การรับสินค้าจากการสั่งซื้อ และการโอนรับสินค้าทั้งบนเว็บไซต์และแอป
◾ Stock-In: รวมถึง
Manual Stock-in
เพิ่ม SKU Merchant > เพิ่ม SKU เดี่ยว > ตั้งค่าสต็อกเริ่มต้นในคลัง
รายการสินค้าคงคลัง>เพิ่มสต็อกพร้อมขาย
สร้าง SKU Merchant ผ่านไฟล์ Excel
การจับคู่ SKU > ดูตามสินค้า > สร้าง SKU Merchant
การจับคู่ SKU > ดูตามสินค้า > จับคู่ SKU Merchant > จับคู่ SKU Merchant ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากเปิดใช้งาน "บังคับการกรอกวันหมดอายุ" ในหน้าการตั้งค่าสินค้าคงคลัง และ "การจัดการวันหมดอายุ" ในหน้าการแก้ไข SKU Merchant แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่จัดการรายการด้านบน จำเป็นต้องกรอกข้อมูลวันหมดอายุ
2.ตั้งค่า SKU Merchant
💡 หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้ไม่รองรับ Bundle SKU
2.1 ตั้งค่าทีละรายการ
2.1.1 สำหรับ SKU เดี่ยว
ไปยังหน้า "SKU Merchant" > การเพิ่ม/การแก้ไข SKU เดี่ยว

ผู้ใช้งานสามารถเปิดสถานะ "การจัดการวันหมดอายุ" พร้อมตั้งค่า "เวลารับประกัน" และ "จำนวนวันแจ้งเตือนใกล้หมดอายุ"

ในการเพิ่ม SKU เดี่ยว เมื่อผู้ใช้งานตั้งค่าสต็อกเริ่มต้นของ SKU ยังสามารถใส่ข้อมูลวันที่ผลิตและวันหมดอายุได้ (หากผู้ใช้งานได้กรอกข้อมูล "เวลารับประกัน" ด้านบน และ "วันที่ผลิต" ระบบจะคำนวณวันหมดอายุโดยอัตโนมัติ)
จากนั้นกดบันทึกข้อมูล

2.1.2 สำหรับสินค้าหลายตัวเลือก
ในการเพิ่ม/การแก้ไขสินค้าหลายตัวเลือก ผู้ใช้งานก็สามารถเปิดสถานะ "การจัดการวันหมดอายุ" พร้อมตั้งค่า "เวลารับประกัน" และ "จำนวนวันแจ้งเตือนใกล้หมดอายุ" ได้เช่นกัน

2.2 ตั้งค่าแบบเป็นชุด
ผู้ใช้งานยังสามารถเปิดสถานะ "การจัดการวันหมดอายุ" พร้อมตั้งค่า "เวลารับประกัน" และ "จำนวนวันแจ้งเตือนใกล้หมดอายุ" ให้กับสินค้าหลายตัวเลือกหรือ SKU เดี่ยวหลายรายการพร้อมกันได้ จากนั้นกด "ยืนยัน"


นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าแบบเป็นชุดผ่านไฟล์ Excel ได้ จากเมนู "นำเข้า & ส่งออก" > "สร้าง SKU Merchant" / "อัปเดต SKU Merchant" / "สร้างสินค้าหลายตัวเลือก"

3. ตั้งค่ากฎการแจ้งเตือนอายุคลังและการแจ้งเตือนใกล้หมดอายุ
ผู้ใช้งานสามารถสร้างกฎการแจ้งเตือนอายุคลังและการแจ้งเตือนใกล้หมดอายุในระบบ BigSeller ได้ เพื่อให้ระบบช่วยแจ้งเตือนให้จัดการสินค้าที่ค้างในคลังเป็นเวลานานได้อย่างทันเวลา
👉คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด
4.หลังเปิดใช้งาน
4.1เพิ่มสต็อกล็อตสินค้า
4.1.1 Manual Stock-in, การรับสินค้า และการสั่งซื้อ
หลังจากเปิดใช้งานฟีเจอร์ "การจัดการล็อตสินค้า" แล้ว ระบบจะสร้าง "สต็อกล็อตสินค้า" และ "สต็อกล็อตสินค้าในตำแหน่ง" ทุกครั้งที่ผู้ใช้งานเติมสต็อกของ SKU Merchant ในคลังสินค้า โดยสต็อกของ SKU เดียวกันที่อยู่ในรายการดำเนินการที่ต่างกัน จะถูกจัดเป็นสต็อกล็อตสินค้าที่ต่างกัน
เมื่อผู้ใช้งานดำเนินการ Manual Stock-in, การรับสินค้า และการสั่งซื้อ สามารถกำหนด "วันที่ผลิต" และ "วันหมดอายุ" ได้
หากสำหรับ SKU เดียวกันมีวันหมดอายุที่ต่างกัน แนะนำให้แยกดำเนินการ Stock-in

4.1.2 นับสต็อก
หากผลการนับเป็นสต็อกเกิน ระบบจะเพิ่มสต็อกส่วนเกินเข้าไปในสต็อกล็อตสินค้าล่าสุดในตำแหน่งชั้นวาง หากในตำแหน่งนั้นยังไม่มีสต็อกล็อตสินค้าของ SKU นั้น ระบบจะสร้างล็อตสินค้าใหม่
หากผลการนับเป็นสต็อกขาด ระบบจะตัดสต็อกล็อตสินค้าในตำแหน่งชั้นวางตามลำดับของเวลาการสร้างล็อตจากเก่าไปใหม่
4.1.3 คืนสินค้าเข้าสต็อก
หากผู้ใช้งานคืนสินค้าเข้าไปในคลังสินค้าเดิม สต็อกจะอยู่ในล็อตสินค้าเดิม
หากผู้ใช้งานคืนสินค้าเข้าไปในคลังสินค้าใหม่ ระบบจะสร้างเป็นล็อตสินค้าใหม่ โดยสามารถอ้างอิงวันหมดอายุตามข้อมูลเดิมของ SKU นั้น
4.2 เมนูสต็อกล็อตสินค้า
ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบรายละเอียดของสต็อกล็อตสินค้าในเมนูนี้ได้

◾ จำนวนวันคงเหลือหมดอายุ: คำนวณในเวลา 00.00 น. ของทุกวัน
จำนวนวันคงเหลือหมดอายุ = วันหมดอายุ - วันปัจจุบัน
◾ อายุคลัง: คำนวณใน 00.00 น. ของทุกวัน ระบบจะไม่คำนวณอายุคลังของสต็อกล็อตสินค้าที่มีจำนวนเป็น 0
อายุคลัง = วันที่ก่อนหน้า - วันที่ Stock-in
อายุคลังในวันที่ Stock-in จะเท่ากับ 0 วัน
◾ ต้นทุนล็อตสินค้า: ต้นทุนของสินค้า 1 ชั้น โดยอ้างอิงข้อมูลจากราคาในการนำสินค้าเข้าสต็อก (รวมถึง Manual Stock-in, การคืนสินค้า Stock-in, การรับสินค้าของใบสั่งซื้อและใบโอนสินค้า)
หากผู้ใช้งานต้องการนำสต็อกล็อตสินค้าออกจากคลังสินค้า (เช่นสินค้าที่หมดอายุแล้ว) สามารถดำเนินการ Stock-out เป็นชุดได้ จากนั้นระบบจะสร้างรายการบันทึกในเมนู "บันทึกการอัปเดตสต็อกล็อตสินค้า" โดยให้อยู่ในประเภท "Manual Stock-out"

สำหรับคลังสินค้าประเภท 1 SKU 1 ตำแหน่ง (ยกเว้นคลังสินค้าประเภท Fulfillment Warehouse) ผู้ใช้งานยังสามารถดำเนินการปรับสต็อกของล็อตสินค้าในเมนูนี้ได้โดยตรง จากนั้นระบบจะสร้างรายการบันทึกในเมนู "บันทึกการอัปเดตสต็อกล็อตสินค้า" โดยให้อยู่ในประเภท "Manual Stock-in"/"Manual Stock-out"

4.3 บันทึกการอัปเดตสต็อกล็อตสินค้า
ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบรายละเอียดการเคลื่อนไหวของสต็อกล็อตสินค้าในเมนูนี้ได้

4.4 รายงานอายุคลัง
ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสภาพอายุคลังของ SKU เดียวกัน และสามารถตั้งค่าช่วงอายุคลังด้วยตนเองได้


◾ ระบบจะคำนวณข้อมูลอายุคลังของวันก่อนหน้าในเวลา 00.00 น. ของทุกวัน
◾ ในวันที่เพิ่งเปิดใช้งานฟีเจอร์ "การจัดการล็อตสินค้า" อายุคลังจะเป็น 0 วัน
4.5 การตั้งค่าต้นทุน SKU Merchant
ผู้ใช้งานสามารถเลือก "ต้นทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเคลื่อนไหว" หรือ "ต้นทุนล็อตสินค้า"
◾ ต้นทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเคลื่อนไหว: การคำนวณกำไรโดยประมาณจะใช้ราคาต้นทุนสต็อกของคลังสินค้าจัดส่งตามคำสั่งซื้อ และรายงานกำไรจะใช้ "ราคาของ Stock-out/in" เมื่อสินค้าถูกจัดส่งเข้ามา หรือออกจากคลังสินค้า
ต้นทุนถ่วงน้ำหนักเคลื่อนไหว=(สต็อกที่มีอยู่เดิม * ต้นทุนเดิม + จำนวน Stock-In * ราคา Stock-In)/(สต็อกที่มีอยู่เดิม + จำนวน Stock-In)
ต้นทุนของ Bundle SKU จะคำนวณตามต้นทุนของ SKU เดี่ยว
◾ ต้นทุนล็อตสินค้า: การคำนวณกำไรโดยประมาณและรายงานกำไรจะใช้ราคาต้นทุนล็อตสินค้าของคลังสินค้าจัดส่งตามคำสั่งซื้อ หากตั้งค่าเป็น 0 ระบบจะคำนวณตาม 0
