ฟีเจอร์สินค้าคงคลังของ BigSeller ช่วยให้คุณจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อคุณขายสินค้าเดียวกันในร้านค้า (แพลตฟอร์ม) หลายร้านในขณะเดียวกัน คุณสามารถเช็คดูและจัดการสินค้าคงคลังจริงของคุณได้
【สต็อกที่มีอยู่】 หมายถึงจำนวนสต็อกทั้งหมด โดยปกติจะใช้เพื่อบันทึกจำนวนสต็อกแท้จริงของสินค้าในคลังของคุณ (สต็อกที่มีอยู่ = ล็อคแล้ว +สต็อกพร้อมขาย + โปรโมชั่นที่จองไว้)
【ล็อคแล้ว】 จำนวนสต็อกที่จัดสรรให้กับคำสั่งซื้อ หลังจากซิงค์คำสั่งซื้อเข้าระบบ BigSeller ระบบจะล็อคสต็อกสำหรับคำสั่งซื้อนี้ไว้ และสต็อกที่ล็อคไว้ไม่สามารถจัดสรรให้กับคำสั่งซื้ออื่นได้อีก
【สต็อกพร้อมขาย】 สต็อกที่สามารถจัดสรรได้ เมื่อคุณคลิก ยืนยัน ระบบจะตรวจสอบว่ามีสต็อกที่เพียงพอสามารถจัดสรรให้คำสั่งซื้อนี้หรือไม่ตามสต็อกพร้อมขาย
【ระหว่างทาง】 จำนวนสต็อกระหว่างทางการโอนและการสั่งซื้อ ระหว่างทาง = ระหว่างทางการโอน + ระหว่างทางการสั่งซื้อ
【โปรโมชั่นที่จองไว้】 ปริมาณสินค้าคงคลังที่ได้จัดสรรให้กับโปรโมชั่น สินค้าคงคลังที่จองไว้ให้โปรโมชั่นเฉพาะ หลังจากโปรโมชั่นเสร็จสิ้น ระบบจะปล่อยคืนสต็อกที่เหลือ
【การแจ้งเตือนสต็อก】 จำนวนสต็อกขั้นต่ำ เมื่อปริมาณสินค้าคงคลังต่ำกว่าการแจ้งเตือนสต็อก SKU Merchant จะแสดงอยู่รายการการแจ้งเตือนสต็อก
หากได้นำ SKU Merchant เข้าคลังสินค้าและสต็อกมากกว่า 0 คุณจะไม่สามารลบ SKU Merchant ได้
หากคุณต้องการลบ SKU Merchant คุณจะต้องเพิ่มรายการ Stock-Out เพื่อให้สต็อก SKU Merchant เป็น 0 ก่อนจึงจะลบออกได้
จะสร้างรายการ Stock-Out ได้อย่างไร
หากสต็อก SKU Merchant เป็น 0 คุณสามารลบ SKU Merchant ได้
หากสต็อก SKU Merchant มากกว่า 0 คุณจะต้องเพิ่มรายการ Stock-Out เพื่อให้สต็อก SKU Merchant เป็น 0 ก่อนจึงจะลบออกได้
เมื่อคุณเลือกคำสั่งซื้อและคลิก ยืนยัน ระบบ BigSeller จะตรวจสอบสินค้าคงคลัง หากสต็อกเพียงพอ ระบบ BigSeller จะจัดสรรสต็อกให้กับสินค้าโดยอัตโนมัติ หากสต็อกไม่เพียงพอจะยืนยันล้มเหลว โปรดเพิ่มสต็อกก่อน แล้วค่อยจัดการอีกครั้งค่ะ
เมื่อคุณเลือกคำสั่งซื้อ คลิก จัดส่ง ระบบ BigSeller จะตัดสต็อกโดยอัตโนมัติ

ย้ายคำสั่งซื้อไปยังรายการ 【คำสั่งซื้อที่เป็นโมฆะ】 ระบบก็จะปล่อยสต็อกที่ถูกจัดสรรไว้กับคำสั่งซื้อนี้โดยอัตโนมัติ
2. สำหรับคำสั่งซื้อที่อยู่ในสถานะ จัดส่งแล้ว ระบบ BigSeller จะไม่คืนสต็อกที่ได้จัดสรรกลับไปยังสต็อกเดิมโดยอัตโนมัติ โปรดเพิ่มสต็อกด้วยตนเอง จะเพิ่มหรือลดสินค้าคงคลังได้อย่างไร
หากผู้ซื้อต้องการเปลี่ยนสินค้า คุณสามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์การจับคู่ของสินค้าในคำสั่งซื้อด้วยตนเอง ต้องสังเกตว่าตอนเปลี่ยนสินค้าต้องเลือกมีผลเฉพาะคำสั่งซื้อนี้ เพิ่ม/แก้ไขการจับคู่ merchant ของสินค้าในคำสั่งซื้อได้อย่างไร
คือการโอนสินค้าระหว่างคลัง การใช้ฟังค์ชั่นนี้สามารถนำสินค้าจากคลังหนึ่งโอนไปอีกคลังหนึ่งได้ และรายละเอียด Stock-In กับ Stock-Out จะมีบันทึกไว้ในรายการ【เคลื่อนไหวสต็อก】
วิธีใช้ฟังก์ชั่นการโอนสินค้าเข้าคลัง
ถ้าไม่ได้ทำการคืนสินค้าเข้าคลังใน BigSeller ระบบจะไม่ Stock In โดยอัตโนมัติ
ปัจจุบันนี้ยังไม่รองรับลบสต็อกของ SKU Merchant แบบชุดใน 【รายการสินค้าคงคลัง】ได้
ระบบจะซิงค์สต็อกโดยอัตโนมัติในกรณีดังกล่าวนี้
1 | ซิงค์คำสั่งซื้อ |
2 | Manual Stock-In |
3 | สแกนคืนสินค้าเข้าคลัง |
4 | คืนสินค้าเข้าคลังด้วยตนเอง |
5 | การโอนเข้าคลัง |
6 | การสั่งซื้อเข้าคลัง |
7 | Manual Stock-Out |
8 | การขายออกคลัง |
9 | การโอนออกคลัง |
10 | คำสั่งซื้อที่เป็นโมฆะ |
11 | เปลี่ยนกลับคำสั่งซื้อที่เป็นโมฆะ |
12 | แก้ไขความสัมพันธ์การจับคู่ |
13 | แก้ไขคลังสินค้า |
14 | ย้ายไปรายการ【รอยืนยัน】 |
15 | รีเฟรชสต็อก |
1. โปรดตรวจสอบก่อนว่าคุณได้เปิดฟีเจอร์สินค้าคงคลังหรือยัง คลิก การตั้งค่า > การตั้งค่าสินค้าคงคลัง > ฟีเจอร์สินค้าคงคลัง
2. หลังจากได้ตั้งค่ากฎการซิงค์สินค้าคงคลังแล้ว หากสต็อกพร้อมขายของ SKU Merchant มีการอัปเดต ระบบจะซิงค์สต็อกตามกฎที่คุณตั้งไว้ให้
เช่น คำสั่งซื้อใหม่เข้ามา การเพิ่มหรือลดสต็อก การโอนสินค้า การสั่งซื้อเข้าสต็อก เป็นต้น
หากพึ่งตั้งค่ากฎการซิงค์สินค้าคงคลังเสร็จสิ้น และสต็อกไม่มีการอัปเดต คุณอยากจะซิงค์สต็อกทันที สามารถกดปุ่ม ซิงค์ตอนนี้ ได้
เปอร์เซ็นต์นี้ หมายถึงคุณต้องการซิงค์สต็อกเท่าไรไปยังร้านค้าออนไลน์
ถ้าตั้งค่าเป็น 100% คือสต็อกพร้อมขายมีเท่าไรก็จะซิงค์เท่านั้น
ถ้าตั้งค่าเป็น 50% คือซิงค์ 50% ของสต็อกพร้อมขายไปยังร้านค้าออนไลน์ สต็อกที่เหลือสามารถเก็บไว้ในช่องทางการขายอย่างอื่น เช่น การขายออฟไลน์หรือทำการเปลี่ยนสินค้าที่สูญเสีย
ตัวอย่าง ร้านค้าที่ซิงค์ในกฎการซิงค์มีร้านค้า A B C D คุณได้เลือกร้านค้า A เป็นร้านค้าที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด และจำนวนสต็อกขั้นต่ำกรอกเป็น 30 เมื่อสต็อกพร้อมขายของ SKU Merchant นี้ต่ำกว่า 30 แล้ว ระบบจะซิงค์สต็อกของร้านค้า A เป็น 30 สต็อกของร้านค้า B C D จะซิงค์เป็น 0
คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่าร้านค้าที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด แต่การตั้งค่าร้านค้าที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเป็นวิธีหนึ่งที่ป้องกันขายเกิน
หากคำสั่งซื้อยังอยู่ในรายการ 【คำสั่งซื้อใหม่】 และรายการ 【กำลังดำเนินการ】 สต็อกจะถูกคืนกลับโดยอัตโนมัติหลังจากลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อ
หากคำสั่งซื้ออยู่ในรายการ 【รอรับสินค้า】 และ【จัดส่งแล้ว】 สต็อกจะไม่ถูกคืนกลับโดยอัตโนมัติหลังจากลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อ คุณต้องเพิ่มรายการ Stock-In เพื่อเพิ่มสต็อกกลับด้วยตนเอง
หลังจากเปิดการใช้ฟีเจอร์สินค้าคงคลัง เมื่อคำสั่งซื้อซิงค์เข้า BigSeller สต็อกจะถูกล็อคไว้และระบบจะซิงค์สต็อกกับทุกแพลตฟอร์ม
สำหรับคำสั่งซื้อแบบ Prepaid คำสั่งซื้อจะซิงค์เข้า BigSeller หลังจากที่ลูกค้าชำระเงินแล้ว
สำหรับคำสั่งซื้อแบบ COD คำสั่งซื้อจะซิงค์เข้า BigSeller หลังจากที่ลูกค้ายืนยันสั่งซื้อแล้วเท่านั้น
หลังจากเปิดใช้งานฟีเจอร์สินค้าคงคลัง และตั้งค่าความสัมพันธ์การจับคู่ SKU ร้านค้ากับ SKU Merchant และเพิ่มกฏการซิงค์แล้ว เมื่อคำสั่งซื้อซิงค์เข้า BigSeller ระบบจะล็อคสต็อก และอัปเดตสต็อกพร้อมขายด้วย ดังนั้นระบบจะซิงค์สต็อกกับแพลตฟอร์ม
ถ้าคุณไม่ได้จัดการคำสั่งซื้อใน BigSeller แต่จัดการใน Seller Center สต็อกที่ล็อคจะคืนกลับโดยอัตโนมัติและซิงค์สต็อกไปด้วย
ตัวอย่างเช่น
สินค้า A มีสต็อกพร้อมขาย 20 อัน หลังจาก Shopee มี 1 คำสั่งซื้อเข้ามา(จำนวนสินค้า A เป็น 3 อัน)และได้ซิงค์เข้า BigSeller แล้ว ระบบจะล็อคสต็อกสินค้า A เป็น 3 อันโดยอัตโนมัติ แล้วสต็อกพร้อมขายจะเหลือเป็น 17 อัน สต็อกสินค้า A ที่ซิงค์กับร้านค้าก็จะเป็น 17 อันเช่นกัน
หากคุณไม่ได้จัดการคำสั่งซื้อใน BigSeller (คลิกยืนยัน)แต่จัดการคำสั่งซื้อไปถึงสถานะจัดส่งแล้วใน Seller Center สต็อกที่ถูกล็อคไว้จะคืนกลับโดยอัตโนมัติ และสต็อกพร้อมขายของสินค้า A จะเปลี่ยนกลับเป็น 20 อัน สต็อกสินค้า A ที่ซิงค์กับร้านค้าก็จะเป็น 20 อันเช่นกัน
ดังนั้น เราขอแนะนำว่าถ้าคุณเปิดใช้งานฟีเจอร์สินค้าคงคลัง จำเป็นต้องจัดการคำสั่งซื้อใน BigSeller
ระบบจะซิงค์ตามลำดับความสำคัญของกฏโดยจากสูงไปต่ำ และตัวเลขการเรียงลำดับต่ำที่สุดจะเป็นลำดับความสำคัญสูงที่สุด
หากเพิ่ม SKU Merchant ใหม่ และคุณต้องการซิงค์สินค้าออนไลน์ที่ตรงกับ SKU Merchant นี้ คุณต้องเพิ่ม SKU Merchant ใหม่นี้ลงในกฎการซิงค์
หากคุณเพิ่มรายการ Stock-In และรับสินค้าเข้าคลังสำเร็จ สต็อกสินค้าของร้านค้าออนไลน์จะอัปเดตโดยอัตโนมัติ
คลิก สินค้าคงคลัง > SKU Merchant คุณสามารถ
① คัดกรอง SKU Merchant ที่ได้จับคู่แล้วและที่ยังไม่ได้จับคู่ตามสถานะการจับคู่ SKU
② เห็นโดยตรงว่า SKU Merchant ได้จับคู่กับ SKU ร้านค้าไหนแล้วบ้าง
คลิก สินค้าคงคลัง > การจับคู่ SKU คุณสามารถ
① คัดกรอง SKU ร้านค้าที่ได้จับคู่แล้วและที่ยังไม่ได้จับคู่
② ค้นหา SKU ร้านค้านี้ได้จับคู่หรือยัง และได้จับคู่กับ SKU Merchant ไหน
③ แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์การจับคู่
ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้ามี 2 ตัวเลือก สีและไซต์ มีสีแดงและสีดำ และขนาด M และ L
แล้วทั้งหมดมีสี่รูปแบบ สีแดง M สีแดง L สีดำ M และ สีดำ L แต่ละรูปแบบจำเป็นต้องสร้าง 1 SKU Merchant และสร้างความสัมพันธ์การจับคู่กับ SKU ร้านค้าที่เกี่ยวข้อง
ข้อสังเกต สำหรับรูปแบบที่แตกต่างกัน ควรตั้งค่า SKU ร้านค้าที่แต่กต่างกันด้วย หากเหมือนกันจะส่งผลต่อการซิงค์สต็อก
หากไม่อยากระบบสร้าง SKU Merchant โดยอัตโนมัติให้ คุณสามารถปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้

ข้อสังเกต SKU Merchant ที่ระบบสร้างอัตโนมัติจะจัดสรรคเข้าคลังสินค้าตามค่าเริ่มต้นและไม่มีสต็อกด้วย คุณสามารถเพิ่มสต็อกโดยสร้างรายการ Stock-In ได้ จะสร้างรายการ Stock-In ได้อย่างไร
2. โปรดตรวจสอบว่าได้สร้างความสัมพันธ์การจับคู่แล้วหรือไม่
3. โปรดตรวจสอบว่าได้เปิดใช้งานกฎการซิงค์แล้วหรือไม่
ข้อสังเกต หากเปิดใช้งานกฎการซิงค์หลังการรับสินค้าเข้าคลัง โปรดคลิก ซิงค์ตอนนี้ ด้วยตนเอง และระบบจะซิงค์สต็อกทันที
หากขั้นตอนข้างต้นเสร็จสมบูรณ์แล้วและการซิงค์สต็อกยังไม่สำเร็จ โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าทางเราเพื่อช่วยคุณเช็คหาปัญหา
สูตรการคำนวณราคาต้นทุนของ SKU Merchant = (สต็อกที่มีอยู่เดิม * ต้นทุนเดิม + ราคา Stock-In * จำนวน Stock-In ) / (สต็อกที่มีอยู่เดิม + จำนวน Stock-In )
เพิ่มเติม จะจับราคาใดเป็นราคา Stock-In ในตอนคืนสินค้าเข้าคลัง
1. หาก SKU Merchant มีราคา Stock-In/Out จะจับราคา Stock-In/Out ในรายการ【การเคลื่อนไหวสต็อก】เป็นราคา Stock-In ในตอนคืนสินค้าเข้าคลัง
2. หากราคา Stock-In/Out ของ SKU Merchant = 0 จะจับราคาต้นทุนในขณะนั้นของ SKU Merchant เป็นราคา Stock-In ในตอนคืนสินค้าเข้าคลัง
3. หากราคา Stock-In/Out ของ SKU Merchant = 0 ราคาต้นทุน = 0 ราคา Stock-In ในตอนคืนสินค้าเข้าคลังจะเป็น 0 เหมือนกัน
คุณต้องเข้าร่วมโปรโมชั่นใน Seller Centre
2. ปัจจุบันรองรับการจองสต็อกสำหรับโปรโมชั่นประเภทใดบ้าง
Shopee ปัจจุบันรองรับจองสต็อกเฉพาะสำหรับ Shocking Sale (ลดราคาแบบจำกัดเวลา)
Lazada จองสต็อกให้โปรโมชั่นทั้งหมด แต่เฉพาะในกรณีที่คุณต้องการสร้างโปรโมชั่นใน BigSeller ด้วยตนเองและกรอกข้อมูลโปรโมชั่น
3. ดูจำนวนคลังโปรโมชั่นได้ที่ไหน
สินค้าคงคลัง > รายการสินค้าคงคลัง คุณสามารถดูสินค้าคงคลังที่จองที่เหลืออยู่แบบเรียลไทม์ คุณสามารถดูสต็อกรวมที่จองไว้สำหรับโปรโมชั่นในหน้า【จำนวนคลังโปรโมชั่น】ได้
4. หากสต็อกที่จองไว้ไม่เพียงพอ และมีคำสั่งซื้อใหม่สำหรับโปรโมชั่นเข้ามา จะจัดการได้อย่างไร
หากสต็อคที่จองไว้ไม่เพียงพอ ระบบจะล็อคสต็อกจากสต็อกพร้อมขายพร้อมจัดสรรให้กับคำสั่งซื้อนั้น
5. BigSeller จะกำหนดได้อย่างไรว่าคำสั่งซื้อนี้เป็นคำสั่งซื้อในช่วงโปรโมชั่น
คำสั่งซื้อที่ซิงค์เข้า BigSeller หลังจากเริ่มโปรโมชั่นจะถือเป็นคำสั่งซื้อในช่วงโปรโมชั่น
6. หากโปรโมชั่นสิ้นสุดลงแล้ว สต็อกที่จองไว้มีเหลืออยู่จะจัดการอย่างไร
หลังจากโปรโมชั่นสิ้นสุดลง ระบบจะนำสต็อกที่จองไว้ที่เหลืออยู่กลับไปยังสต็อกพร้อมขาย
7. ระบบจะจองจำนวนคลังโปรโมชั่นให้โดยอัตโนมัติหรือไม่
ระบบไม่จองให้โดยอัตโนมัติ
Shopee หลังจากซิงค์โปรโมชั่นเข้า BigSeller คุณต้องการกรอกและยืนยันจำนวนสต็อกที่จองไว้ใน BigSeller > สินค้าคงคลัง > จำนวนคลังโปรโมชั่น > Shopee ไว้ก่อน ระบบจึงจะเริ่มจองสต็อกให้โดยอัตโนมัติ
Lazada คุณต้องสร้างโปรโมชั่น และกรอกจำนวนสต็อกที่จะจองใน BigSeller ไว้ก่อน ระบบจึงจะเริ่มจองสต็อกให้โดยอัตโนมัติ
8. ระบบจะล็อคสต็อกและตัดสต็อกอย่างไร
เมื่อซิงค์คำสั่งซื้อเข้า BigSeller ระบบจะจัดสรรสต็อกและล็อคสต็อกให้กับคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติ
เมื่อคลิก【จัดส่ง】ในรายการ【กำลังดำเนินการ】 หลังจากที่คำสั่งซื้อถูกย้ายเข้า【จัดส่งแล้ว】 BigSeller จะตัดสต็อกโดยอัตโนมัติเพื่อดำเนินการจัดส่งให้เสร็จสิ้น
9. โปรโมชั่นสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังมีคำสั่งซื้อโปรโมชั่น (ผู้ซื้อยังไม่ได้ชำระเงินสำหรับการสั่งซื้อ) จะจัดการกับสต็อกได้อย่างไร
กรณีที่ 1 เมื่อยืนยันจำนวนสต็อกที่จอง ได้เลือก ขยายเวลา 24 ชม. โดยอัตโนมัติ จำนวนสต็อกที่จองไว้สำหรับโปรโมชั่นยังมีผลใช้งานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากโปรโมชั่นสิ้นสุดลง
คำสั่งซื้อที่ซิงค์เข้า BigSeller ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากโปรโมชั่นสิ้นสุดลงยังถือเป็นคำสั่งซื้อโปรโมชั่น และคำสั่งซื้อเหล่านี้จะได้รับการจัดสรรจำนวนคลังโปรโมชั่นก่อน หากจำนวนคลังโปรโมชั่นไม่เพียงพอ ระบบจะจัดสรรสต็อกจากสต็อกพร้อมขายให้คำสั่งซื้อ
คำสั่งซื้อที่ซิงค์เข้า BigSeller ซึ่งเกิน 24 ชั่วโมงหลังจากโปรโมชั่นสิ้นสุดลงแล้วจะไม่ถือเป็นคำสั่งซื้อโปรโมชั่น และจะได้รับการจัดสรรสต็อกพร้อมขายโดยปกติ
กรณีที่ 2 เมื่อยืนยันจำนวนสต็อกที่จอง ไม่ได้เลือก ขยายเวลา 24 ชม. โดยอัตโนมัติ คำสั่งซื้อที่ซิงค์เข้า BigSeller หลังจากโปรโมชั่นสิ้นสุดลงจะไม่ถือเป็นคำสั่งซื้อโปรโมชัน และจะได้รับการจัดสรรสต็อกพร้อมขายโดยปกติ
10. ทำไมโปรโมชั่นของ Shopee ไม่ได้ซิงค์เข้าระบบโดยอัตโนมัติ
โปรดตรวจสอบว่าคุณได้เปิด ฟีเจอร์ซิงค์โปรโมชั่นโดยอัตโนมัติ หรือไม่ หากยังไม่ได้เปิด BigSeller จะไม่สามารถซิงค์โปรโมชั่นของคุณได้โดยอัตโนมัติ
หากเปิดไว้แล้วแต่ยังไม่มีการซิงค์โปรโมชั่นโดยอัตโนมัติ โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของเรา

11. ทำไมโปรโมชั่นของ Lazada ไม่ได้ซิงค์เข้าระบบโดยอัตโนมัติ
เนื่องจาก API ของ Lazada ไม่รองรับ จะทำการอัปเกรดในอนาคต
12. หลังจากจองสต็อกแล้วยังสามารถเปลี่ยนจำนวนสต็อกที่จองไว้ไหม
เปลี่ยนได้เฉพาะโปรโมชั่นที่เป็นสถานะยังไม่ได้ดำเนินการ
13. สามารถยกเลิกโปรโมชั่นใน BigSeller ได้หรือไม่
ไม่ได้ หากคุณต้องการยกเลิกโปรโมชั่น คุณต้องยกเลิกใน Seller Centre
14. สามารถลบโปรโมชั่นใน BigSeller ได้หรือไม่
ทั้ง Shopee และ Lazada ไม่สามารถลบได้
15. การขยาย 24 ชม. โดยอัตโนมัติมีประโยชน์อะไรบ้าง
จำนวนคลังโปรโมชั่นยังมีผลใช้งานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากโปรโมชั่นสิ้นสุดลง
คำสั่งซื้อที่ซิงค์เข้า BigSeller ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากโปรโมชั่นสิ้นสุดลงยังถือเป็นคำสั่งซื้อโปรโมชั่น และคำสั่งซื้อเหล่านี้จะได้รับการจัดสรรจำนวนคลังโปรโมชั่นก่อน หากจำนวนคลังโปรโมชั่นไม่เพียงพอ ระบบจะจัดสรรสต็อกจากสต็อกพร้อมขายให้
ข้อสังเกต ระบบจะเลือก ขยายเวลา 24 ชม. โดยอัตโนมัติให้ตามค่าเริ่มต้น หากไม่ได้ยกเลิกด้วยตนเอง ระบบจะเลือก ขยายเวลา 24 ชม. โดยอัตโนมัติให้โปรโมชั่นทั้งหมดตามค่าเริ่มต้น
16. ยังสามารถแก้ไขจำนวนสต็อกที่จองไว้หลังจากเริ่มโปรโมชั่นได้หรือไม่
หลังจากเริ่มโปรโมชั่นแล้ว จำนวนสต็อกที่จองไว้จะไม่สามารถแก้ไขได้อีก