How can we help?

ฟังก์ชันการจัดกลุ่มตามกฎใน Wave

คัดลอกลิงก์ & ชื่อเรื่อง

เวลาอัปเดต: 15 ต.ค. 2025 09:52

ฟังก์ชันการจัดกลุ่มตามกฎ

ระบบสามารถสร้าง Wave โดยอัตโนมัติตามกฎการจัดกลุ่มที่ตั้งไว้ เช่น SKU Merchant, น้ำหนัก, ปริมาตร, เครื่องหมายคำสั่งซื้อ หรือหมวดหมู่ SKU Merchant

จุดเด่น

1. จัดกลุ่มออเดอร์อัตโนมัติ — ระบบจะตรวจจับลักษณะของคำสั่งซื้อและสร้าง Wave ตามกฎที่กำหนดไว้ ช่วยลดขั้นตอนการคัดแยกด้วยตนเอง
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการแบ่งงาน — สามารถตั้งกฎเพื่อมอบหมายออเดอร์ให้พนักงานแต่ละคนตาม SKU หรือเครื่องหมายคำสั่งซื้อ ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน
3. ยืดหยุ่นต่อทุกสถานการณ์ — เหมาะสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อหลายประเภท เช่น สินค้าขนาดใหญ่ สินค้าขนาดกลาง หรือสินค้าขนาดเล็ก ที่ต้องใช้วิธีการหยิบสินค้าที่ต่างกัน


 

คำชี้แจงสำคัญ

  • ฟังก์ชันการจัดกลุ่มตามกฎไม่รองรับประเภท Wave สำหรับสินค้าขายดี และสร้างด้วยตนเอง

  • คำสั่งซื้อต้องการตรงตามเงื่อนไขทั้งหมดในกฎ จึงจะสามารถถูกสร้าง Wave ตามกฎการจัดกลุ่มได้

  • ต้องการปิดกฎการจัดกลุ่มก่อนจึงจะสามารถลบกฎออกจากระบบได้

  • หากคำสั่งซื้อตรงตามกฎที่ 1 และ 2 ระบบจะสร้าง Wave ตามกฎการจัดกลุ่มตามลำดับความสำคัญที่สูงสุด

  • คำสั่งซื้อต้องตรงตามเงื่อนไขการสร้างประเภท Wave และกฎการจัดกลุ่มพร้อมกัน

     

วิธีสร้างกฎการจัดกลุ่ม

ขั้นตอนที่ 1 คลิก "ยังไม่เปิดใช้งาน" ของประเภท Wave ที่ต้องการ > เข้าสู่หน้าการสร้างกฎ และคลิก "เพิ่มกฎ"





ขั้นตอนที่ 2 ตั้งชื่อกฎ เลือกเงื่อนไขที่ต้องการ และตั้งค่าเนื้อหาของเงื่อนไขต่างๆ

💡คำอธิบายเงื่อนไขต่างๆ

1. กำหนด SKU Merchant
  • สินค้าใดในพัสดุเป็นสินค้าที่เลือก: สินค้าใดสินค้าหนึ่งในพัสดุต้องอยู่ในสินค้าที่กำหนดไว้ในกฎ
    • ตัวอย่าง หากเลือกสินค้าไว้เป็น A, B และ C แล้วในพัสดุมีสินค้า A และ D กรณีนี้สินค้า A ตรงตามเงื่อนไข
  • สินค้าทั้งหมดในพัสดุเป็นสินค้าที่เลือก: สินค้าทั้งหมดในพัสดุต้องอยู่ในสินค้าที่กำหนดไว้ในกฎ
    • ตัวอย่าง หากเลือกสินค้าไว้เป็น A, B และ C พัสดุ 01 มีสินค้า A และ B ซึ่งทั้ง A และ B อยู่ในสินค้าที่เลือกไว้ จึงถือว่าตรงตามเงื่อนไข พัสดุ 02 มีสินค้า A และ D โดยที่ D ไม่ได้อยู่ในสินค้าที่เลือกไว้ จึงถือว่าไม่ตรงตามเงื่อนไข
2. หมวดหมู่ SKU Merchant
  • สินค้าใดสินค้าหนึ่งในพัสดุอยู่ในหมวดหมู่ที่เลือกไว้: สินค้าใดสินค้าหนึ่งในพัสดุต้องอยู่ในหมวดหมู่ที่กำหนดไว้ในกฎ
    • ตัวอย่าง หากเลือกหมวดหมู่ A, B และ C แต่ในพัสดุมีหมวดหมู่ A และ D ขณะนี้หมวดหมู่ A ตรงตามเงื่อนไข และหากตรงตามเงื่อนไขอื่นด้วย พัสดุนั้นจะถือว่าเป็นพัสดุตามกฎปัจจุบัน
  • สินค้าทั้งหมดในพัสดุอยู่ในหมวดหมู่ที่เลือกไว้: สินค้าทั้งหมดในพัสดุต้องอยู่ในหมวดหมู่ที่กำหนดไว้ในกฎ
    • ตัวอย่าง หากเลือกหมวดหมู่ A, B และ C พัสดุ 01 มีหมวดหมู่ A และ B ซึ่งทั้งสองตรงอยู่ในหมวดหมู่ที่เลือกไว้ และหากตรงตามเงื่อนไขอื่นในกฎด้วย พัสดุนี้จะถือว่าเป็นพัสดุตามกฎ พัสดุ 02 มีหมวดหมู่ A และ D โดยที่หมวดหมู่ D ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่ที่เลือกไว้ ดังนั้นพัสดุนี้จะไม่ถือว่าเป็นพัสดุตามกฎ
3. น้ำหนักพัสดุ: น้ำหนักรวมของ SKU ภายในพัสดุ (อ้างอิงจากน้ำหนักในหน้า SKU Merchant) หากน้ำหนักพัสดุอยู่ในช่วงที่กำหนด (น้ำหนักขั้นต่ำ ≤ X < น้ำหนักสูงสุด) จะถือว่าตรงตามเงื่อนไข

4. ปริมาตรพัสดุ: นำขนาดของ SKU มาใช้ในการคำนวณขนาดพัสดุ โดย
  • ค่าที่มากที่สุดของขนาด SKU จะถือเป็น ความยาว
  • ค่ากลางจะเป็น ความกว้าง
  • ค่าที่น้อยที่สุดจะเป็น ความสูง
หากพัสดุมีหลาย SKU จะใช้
  • ความยาวที่มากที่สุดของ SKU เป็น ความยาวของพัสดุ
  • ความกว้างที่มากที่สุดของ SKU เป็น ความกว้างของพัสดุ
  • นำความสูงของ SKU แต่ละตัวมาบวกกันเพื่อเป็น ความสูงของพัสดุ
สุดท้ายคำนวณปริมาตรพัสดุ = ความยาว × ความกว้าง × ความสูง หากปริมาตรพัสดุอยู่ในช่วงที่กำหนด (ปริมาตรขั้นต่ำ ≤ X < ปริมาตรสูงสุด) จะถือว่าตรงตามเงื่อนไข

5. ระยะเวลาการจัดส่งที่เหลือ: คำสั่งซื้อที่จะเกินเวลาภายในอีก xx ชั่วโมง จะถูกคำนวณโดยใช้เวลาปัจจุบันของการพรีวิว Wave โดย ระยะเวลาการจัดส่งที่เหลือ = เวลาหมดอายุ (Expire time) - เวลาปัจจุบันของการพรีวิว Wave หากระยะเวลาจัดส่งที่เหลืออยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด (ชั่วโมงขั้นต่ำ ≤ X < ชั่วโมงสูงสุด) จะถือว่าตรงตามเงื่อนไข

6. เครื่องหมายคำสั่งซื้อ: หากคำสั่งซื้อมีเครื่องหมายใดเครื่องหมายหนึ่งที่เลือกไว้ จะถือว่าตรงตามเงื่อนไข ตัวเลือกนี้มาจากหน้า การตั้งค่าคำสั่งซื้อ > การตั้งค่าเครื่องหมาย > เครื่องหมายที่เปิดใช้งาน หากเครื่องหมายที่ถูกอ้างอิงในกลุ่มกฎถูกปิดใช้งาน ระบบจะยกเลิกการอ้างอิงเครื่องหมายนั้นโดยอัตโนมัติ

7. จำนวนประเภท SKU ภายในคำสั่งซื้อ: หากจำนวนประเภท SKU ภายในคำสั่งซื้ออยู่ในช่วงที่กำหนด (จำนวนขั้นต่ำ ≤ X < จำนวนสูงสุด) จะถือว่าตรงตามเงื่อนไข


 

การทำงานของฟังก์ชัน

เมื่อสร้างกฎการจัดกลุ่มแล้ว ระบบจะใช้กฎนี้ในการสร้าง Wave โดยมีกระบวนการทำงานดังนี้

1️⃣ ตรวจสอบประเภทของ Wave ก่อน
ระบบจะตรวจจับคำสั่งซื้อทั้งหมดเพื่อระบุว่าแต่ละคำสั่งซื้ออยู่ในประเภท Wave แบบใด

2️⃣ ตรวจสอบกฎการจัดกลุ่ม
หากประเภท Wave นั้นเปิดใช้งานการจัดกลุ่มตามกฎ ระบบจะตรวจสอบว่าคำสั่งซื้อภายในประเภท Wave เดียวกันตรงตามเงื่อนไขของกฎการจัดกลุ่มหรือไม่

  • คำสั่งซื้อที่ตรงตามเงื่อนไขของกฎจะถูกสร้างรวมอยู่ใน Wave เดียวกัน

  • คำสั่งซื้อที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขจะถูกสร้าง Wave แยกตามประเภท Wave

3️⃣ จัดการเมื่อเกินความจุสูงสุด
หากจำนวนคำสั่งซื้อที่ตรงตามเงื่อนไขของกฎมากกว่าความจุสูงสุดที่ตั้งไว้ในประเภท Wave ระบบจะสร้างหลาย Wave ตามกฎการจัดกลุ่ม โดยจะจัดเรียงลำดับตามกฎการจัดลำดับของประเภท Wave นั้น

4️⃣ จัดการเมื่อมีน้อยกว่าความจุขั้นต่ำ
หากจำนวนคำสั่งซื้อที่ตรงตามกฎการจัดกลุ่มน้อยกว่าความจุขั้นต่ำที่ตั้งค่าไว้ ระบบจะสร้าง Wave ตามประเภท Wave แทน

5️⃣ กรณีจำนวนคำสั่งซื้อต่ำกว่าความจุขั้นต่ำของประเภท Wave
หากคำสั่งซื้อในประเภท Wave นั้นยังน้อยกว่าความจุขั้นต่ำที่กำหนด ระบบจะไม่สร้าง Wave ให้โดยอัตโนมัติ

 

หากบทความไม่สามารถแก้ไขปัญหาของคุณได้ สามารถ ติดต่อเรา